จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแบบเข้าใจง่าย

การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คือการเริ่มการทำธุรกิจหรือปรับรูปแบบธุรกิจในมีสถานะเป็นนิติบุคคล เพิ่มความเป็นระบบให้กับธุรกิจ และความรับผิดชอบทางกฎหมายของนิติบุคคลจะมีขอบเขตชัดเจนบ่งแยกจากกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลนั้นๆ

เหตุใดที่คุณควรการประกอบธุรกิจในนามนิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด)

1. ช่วยประหยัดภาษี

เพราะในการประกอบธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลในทางกฎหมายแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ในทางภาษีมากกว่ารูปแบบของบุคลลธรรมดา กล่าวคือ บุคคลธรรมดา มีเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเงินได้สูงสุดถึง 35 % ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ส่วนนิติบุคคลจะเสียสูงสุดอยู่ที่ 20 % ของกำไรสุทธิ นอกจากนี้ หากนิติบุคคลมีกำไรสุทธิไม่เกิน 300,000 บาท จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีคือกำไรดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

2. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับระบบธุรกิจ

การติดต่อเจรจาธุรกิจมีความง่ายขึ้น เนื่องจากบุคคลายนอกจะมีความเชื่อมั่นในธุรกิจรูปแบบบริษัทหรือหุ้นส่วนจำกัดมากกว่ารูปแบบของบุคคลธรรมดา

3. ความรับผิดชอบของเจ้าของกิจการมีขอบเขตที่ชัดเจน

กล่าวคือ หากมีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นในธุรกิจ ผู้ประกอบการไม่ต้องรับผิดในนามส่วนตัว

4. ผู้ประกอบการรับรู้รายรับ รายจ่าย กำไรของธุรกิจได้อย่างชัดเจน

5. หมดความกังวลเรื่องการถูกตรวจสอบภาษีจากกรมสรรพกร

พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันแทบจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดไปแล้ว เนื่องจากความสะดวกสบาย ความปลอดภัยต่อทรัพย์สิน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้การตรวจสอบรายได้ของผู้ประกอบการง่ายและชัดเจนมากขึ้น อาจส่งผลให้ผู้ประกอบในรูปแบบบุคคลธรรมดาเสียภาษีมากกว่าผู้ประกอบการนิติบุคคล

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะคิดว่า ไม่ต้องการจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล เพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่าประกอบธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา และมีความยุ่งยากมากกว่า ซึ่งในความเป็นจริงในธุรกิจหากผู้ประกอบการได้ลองทำการวางแผนภาษีในธุรกิจของตนเอง อาจช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า และในส่วนปัญหาของความยุ่งยากที่คิดว่าจะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการสามารถในเราเป็นผู้ช่วยจัดการดูแลในค่าบริการที่สมเหตุสมผลและผ็ประกอบการพึงพอใจ

ข้อมูลและเอกสารสำหรับจัดตั้งบริษัท

  1. ชื่อบริษัททั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  2. ชื่อกรรมการ (แนบสำเนาบัตรประชาชน)
  3. ทุนจดทะเบียน (แนะนำไม่ควรเกิน 5 ล้านบาท)
  4. ที่อยู่สำนักงานใหญ่ของบริษัท (แนบทะเบียนบ้านและหน้าเล่มทะเบียนบ้านที่มีรหัสบ้าน)
  5. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาทะเบียนบ้าน และเบอร์ติดต่อของกรรมการและผู้ถือหุ้นทุกคน
  6. แผนที่บริษัท (สามารถส่งแผนที่ Google Map ได้)
  7. สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละคน (แนบสำเนาบัตรประชาชนผู้ถือหุ้น)
  8. ตราประทับบริษัท (ถ้ามี)
  9. วัตถุประสงค์ของบริษัท (หากไม่มีวัตถุประสงค์เฉพาะทาง สามารถใช้วัตถุประสงค์แบบทั่วไปได้)
  10. อีเมล์และเบอร์ติดต่อของบริษัท